Close Menu
    Facebook X (Twitter) Instagram
    partthai
    • Home
    • ข่าวสารล่าสุด
    • ความบันเทิง
    • สุขภาพ
    • สูตรอาหาร
    partthai
    สูตรอาหาร

    อาหารไทยปราศจาก น้ำตาล สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

    George HendersonBy George HendersonSeptember 19, 2025No Comments2 Mins Read

    โรคเบาหวานเป็นภาวะสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องอาหาร เพราะระดับ น้ำตาล ในเลือดที่สูงอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้ การเลือกอาหารที่เหมาะสมจึงเป็นหัวใจสำคัญในการควบคุมโรค หนึ่งในแนวทางที่สำคัญคือการหลีกเลี่ยงน้ำตาลหรืออาหารที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว

    อาหารไทยมีจุดเด่นคือหลากหลายและเต็มไปด้วยสมุนไพร แต่ก็มีหลายเมนูที่ใช้เครื่องปรุงหวาน เช่น น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย และน้ำตาลมะพร้าว ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตาม อาหารไทยยังสามารถปรับให้อร่อยโดยไม่ใช้น้ำตาลได้ หากเลือกวัตถุดิบและวิธีปรุงที่เหมาะสม


    หลักการเลือกอาหารไทยสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

    1. หลีกเลี่ยงน้ำตาลและเครื่องปรุงหวาน
      ควรงดน้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ น้ำเชื่อม รวมทั้งเครื่องดื่มหวาน เช่น น้ำอัดลม ชานม หรือน้ำผลไม้ที่ใส่น้ำตาล
    2. ใช้สมุนไพรไทยแทนความหวาน
      สมุนไพรอย่างตะไคร้ มะนาว ขิง พริก หรือโหระพา ช่วยเพิ่มรสชาติอาหารโดยไม่ต้องใช้น้ำตาล
    3. เน้นโปรตีนไม่ติดมัน
      เช่น อกไก่ ปลา กุ้ง เต้าหู้ และไข่ ซึ่งช่วยให้อิ่มนานและไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเร็ว
    4. เลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
      เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี หรือเส้นหมี่ข้าวกล้อง ที่ย่อยช้ากว่าข้าวขาวและช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี
    5. เพิ่มผักหลากสีในทุกมื้อ
      ผักใบเขียว แตงกวา มะเขือ พริกหวาน ฟักทอง และถั่วฝักยาว ช่วยเพิ่มไฟเบอร์ ลดการดูดซึมของน้ำตาล และให้วิตามินแร่ธาตุที่จำเป็น

    ตัวอย่างเมนูอาหารไทยปราศจากน้ำตาล

    1. ต้มยำกุ้งน้ำใส

    เมนูสมุนไพรที่เผ็ดร้อนและเปรี้ยวจากมะนาว ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำตาลก็อร่อยลงตัว เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะให้พลังงานต่ำและโปรตีนจากกุ้ง

    2. ยำผักรวมกับอกไก่

    แทนน้ำตาลในน้ำยำด้วยน้ำมะนาวและพริกสด เพิ่มผักสดหลากสี เช่น แตงกวา แครอท มะเขือเทศ ช่วยให้อิ่มนานและได้ไฟเบอร์สูง

    3. แกงเลียงผักรวม

    แกงไทยที่ใช้สมุนไพร เช่น หอมแดง กระชาย พริกไทย และกะปิเล็กน้อย ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำปลาแทนการใส่น้ำตาล เหมาะกับการกินคู่ข้าวกล้อง

    4. แกงส้มชะอมกุ้ง

    แกงส้มรสเปรี้ยวแทนรสหวาน ใช้มะขามเปียกและน้ำมะนาวแทนการใส่น้ำตาล เพิ่มผักชะอมและผักอื่นๆ ช่วยให้ได้ใยอาหารสูง

    5. ลาบหมูอกไก่

    อาหารอีสานรสจัดจ้าน ใช้ข้าวคั่ว สมุนไพรสด และน้ำมะนาวแทนน้ำตาล ไม่ใช้น้ำปลาเกินไปเพื่อลดโซเดียม

    6. ปลาย่างสมุนไพร

    ปลาเผาหรือย่างที่ปรุงด้วยเครื่องสมุนไพร เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด และกระเทียม ไม่ต้องพึ่งรสหวานก็อร่อย

    7. ผัดผักน้ำมันหอยแบบลดโซเดียม

    งดน้ำตาล ใช้น้ำมันน้อย เลือกน้ำมันรำข้าวหรือมะกอกแทน เพิ่มผักหลากชนิดเพื่อได้ใยอาหาร

    8. ข้าวกล้องหรือไรซ์เบอร์รีแทนข้าวขาว

    กินคู่กับเมนูหลัก โดยลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตแต่เพิ่มผัก จะช่วยคุมระดับน้ำตาลได้ดีกว่า


    ขนมไทยและของว่างที่เหมาะสม

    แม้ขนมไทยส่วนใหญ่ใช้น้ำตาลเยอะ แต่ยังมีตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เช่น

    • วุ้นกะทิไม่ใส่น้ำตาล ใช้สารให้ความหวานแทน
    • ผลไม้ไทยที่หวานน้อย เช่น ฝรั่ง ชมพู่ แตงโม แก้วมังกร
    • ถั่วอบไม่ใส่เกลือ กินในปริมาณพอเหมาะ

    เคล็ดลับการปรุงอาหารไทยให้ปราศจากน้ำตาล

    1. ใช้สารให้ความหวานทดแทน
      เช่น สตีเวีย (หญ้าหวาน) ที่ไม่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด แต่ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม
    2. เน้นรสเปรี้ยวและเผ็ด
      การปรับรสให้นำด้วยรสเปรี้ยวและเผ็ดจะช่วยให้ลืมความหวานไปโดยไม่เสียความอร่อยแบบไทยๆ
    3. ทำอาหารสดใหม่
      หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปที่อาจมีน้ำตาลแฝง เช่น ไส้กรอก หมูยอ หรือซอสสำเร็จรูป
    4. ควบคุมปริมาณข้าวหรือเส้น
      แม้ไม่ใส่น้ำตาล แต่ถ้ากินคาร์โบไฮเดรตมากเกินไปก็ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้

    ตัวอย่างเมนูอาหารไทยปราศจากน้ำตาลสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน (7 วัน)

    ตารางนี้ออกแบบโดยเน้นอาหารไทยที่ใช้วัตถุดิบสด ไม่ใส่น้ำตาล ปรุงรสด้วยสมุนไพร และเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

    วันมื้อเช้ามื้อกลางวันมื้อเย็นของว่าง
    วันจันทร์โจ๊กข้าวกล้องหมูสับไม่ติดมัน + ไข่ต้ม 1 ฟองส้มตำไทยไม่ใส่น้ำตาล + ไก่ย่างอกไก่ + ข้าวไรซ์เบอร์รี ½ ทัพพีต้มยำกุ้งน้ำใส + ผักลวกฝรั่ง 1 ชิ้นเล็ก
    วันอังคารข้าวต้มปลา + ผักกาดหอมลวกลาบไก่ + ผักสดเคียง + ข้าวกล้อง ½ ทัพพีแกงเลียงผักรวม + ปลาย่างสมุนไพรชมพู่ 1 ผล
    วันพุธไข่คนใส่ผักโขม + ขนมปังโฮลวีต 1 แผ่นแกงส้มชะอมกุ้ง + ข้าวกล้องเล็กน้อยยำวุ้นเส้นกุ้งสด + ผักสดถั่วอบไม่ใส่เกลือ 20 กรัม
    วันพฤหัสบดีข้าวต้มเห็ดหอม + เต้าหู้ขาวยำผักรวม + อกไก่ย่าง + ข้าวไรซ์เบอร์รี ½ ทัพพีต้มจืดฟักเขียวใส่หมูบดไม่ติดมันแตงโม 1 ชิ้น
    วันศุกร์ไข่ต้ม 2 ฟอง + ผักสดเคียงแกงป่าไก่ไม่ใส่น้ำตาล + ข้าวกล้องเล็กน้อยปลานึ่งมะนาว + ผักลวกแก้วมังกร ½ ผล
    วันเสาร์ข้าวต้มกุ้ง + เห็ดเข็มทองสุกี้น้ำไก่ไม่ใส่น้ำตาล + วุ้นเส้นข้าวกล้องผัดผักบุ้งไฟแดงใช้น้ำมันน้อย + ไข่เจียวน้ำชาเขียวร้อน (ไม่ใส่น้ำตาล)
    วันอาทิตย์เต้าหู้นึ่งซีอิ๊วขาวลดโซเดียม + ข้าวกล้องเล็กน้อยยำเห็ดรวมรสเปรี้ยว + ไก่ย่างสมุนไพรแกงเลียงบวบ + กุ้งสดกล้วยหอมเล็ก ½ ผล

    เคล็ดลับการใช้เมนูตารางนี้

    1. สลับมื้อได้ตามความสะดวก
      หากเบื่อเมนูใด สามารถสลับไปใช้เมนูวันอื่นได้ โดยยังคงหลักการไม่ใส่น้ำตาลและใช้คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
    2. ควบคุมปริมาณข้าว
      แม้จะใช้ข้าวกล้องหรือไรซ์เบอร์รี แต่การกินมากเกินไปก็ยังส่งผลต่อระดับน้ำตาล ควรจำกัดที่ประมาณ ½ – 1 ทัพพีต่อมื้อ
    3. เพิ่มผักในทุกจาน
      ผักช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลและทำให้อิ่มนาน ผู้ป่วยเบาหวานควรกินผักอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของปริมาณอาหารทั้งมื้อ
    4. ดื่มน้ำเปล่าเป็นหลัก
      หลีกเลี่ยงน้ำอัดลม น้ำหวาน หรือน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาล ควรดื่มน้ำเปล่า น้ำสมุนไพรไม่ใส่น้ำตาล หรือชาเขียวร้อนแบบไม่ปรุง

    วัตถุดิบและอาหารไทยที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

    แม้อาหารไทยมีความหลากหลายและเต็มไปด้วยสมุนไพร แต่ก็มีเมนูและวัตถุดิบบางชนิดที่อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยเบาหวานควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการบริโภคบ่อยครั้ง

    1. อาหารที่มีน้ำตาลสูง

    • ขนมหวานไทย เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวทุเรียน
    • น้ำเชื่อมและน้ำตาลปี๊บ ที่ใช้ในเมนูอาหารคาว เช่น ผัดไทย แกงเผ็ดบางชนิด หรือยำที่ปรุงหวาน
    • น้ำผลไม้กล่องและน้ำผลไม้ปั่นใส่น้ำเชื่อม แม้ทำจากผลไม้สดก็อาจมีปริมาณน้ำตาลสูงเกินไป

    2. เครื่องดื่มหวาน

    • น้ำอัดลม ชานมไข่มุก ชาเย็น กาแฟเย็นที่ใส่น้ำตาลหรือนมข้นหวาน
    • น้ำสมุนไพรที่ขายทั่วไป เช่น น้ำกระเจี๊ยบ น้ำลำไย ที่มักใส่น้ำตาลปริมาณมาก

    3. ข้าวและเส้นที่ขัดสี

    • ข้าวขาว เส้นก๋วยเตี๋ยวขาว เส้นหมี่ขาว ที่ย่อยง่ายและทำให้ระดับน้ำตาลขึ้นเร็ว
    • ควรเปลี่ยนเป็น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี หรือเส้นจากธัญพืช ที่มีไฟเบอร์มากกว่า

    4. ของทอดและอาหารมันจัด

    • ไก่ทอด หมูทอด กล้วยแขก ขนมปังหน้าหมู และอาหารที่ใช้น้ำมันเยอะ
    • ไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวสูงไม่เพียงแต่ทำให้น้ำหนักเกิน แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

    5. อาหารแปรรูป

    • หมูยอ ไส้กรอก แหนม ลูกชิ้นบางชนิด เพราะมักมีทั้งแป้ง น้ำตาล และโซเดียมสูง
    • ซอสสำเร็จรูป เช่น ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก น้ำจิ้มไก่ ที่มีน้ำตาลแฝง

    แนวทางเลือกอาหารไทยอย่างปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

    1. อ่านฉลากโภชนาการทุกครั้ง
      โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์บรรจุซองหรือขวด เพื่อหลีกเลี่ยงน้ำตาลแฝงและโซเดียมสูง
    2. ทำอาหารเองเมื่อเป็นไปได้
      การทำอาหารที่บ้านช่วยให้ควบคุมเครื่องปรุงได้ดี ลดโอกาสใส่น้ำตาลเกินจำเป็น
    3. ใช้การปรุงแบบไทยดั้งเดิม
      เช่น การต้ม ย่าง นึ่ง หรือแกงที่ใช้สมุนไพร จะช่วยลดความเสี่ยงจากไขมันและน้ำตาลส่วนเกิน
    4. ฝึกการกินแบบพอดี
      แม้จะเลือกอาหารที่เหมาะสม แต่การกินมากเกินไปก็ยังทำให้ระดับน้ำตาลสูง ควรกินในปริมาณพอเหมาะ

    สรุปเพิ่มเติม

    อาหารไทยสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อหรือจืดชืด แต่สามารถคงความอร่อยแบบดั้งเดิมได้ หากใส่ใจเลือกวัตถุดิบที่ไม่เพิ่มน้ำตาล เลี่ยงข้าวขาวหรืออาหารแปรรูป และเน้นผักกับโปรตีนไม่ติดมัน ผู้ป่วยยังสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติอาหารไทยได้อย่างปลอดภัย

    การรู้ว่าอาหารประเภทใดควรเลือกและอาหารประเภทใดควรหลีกเลี่ยง จะช่วยให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดทำได้ง่ายขึ้น และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว

    George Henderson

    Related Posts

    โบสนา: ไส้กรอก บอลข่านย่างร้อนที่อบอวลบนถนนเวียนนา

    October 31, 2025

    สูตรทาร์ต ไข่ ฮ่องกง: แป้งกรอบ ไส้คัสตาร์ดนุ่มละมุน

    October 29, 2025

    มินิโดนัทมัทฉะและ ลาเวนเดอร์ คู่หอมที่สะกดทุกประสาทสัมผัส

    October 28, 2025

    Comments are closed.

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.